ประวัติบริษัท

บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทยเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) โดยกลุ่มบริษัทมีความประสงค์ที่จะประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง จึงได้เตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เพื่อระดมเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในอนาคต โดยพัฒนาการสำคัญที่ผ่านมาของบริษัทฯ มีดังนี้
- 2567
- 2566
- 2565
- 2564
- 2563
- 2562
- 2561
- 2560
- 2559
- 2558
- 2557
- 2556
- 2548

มกราคม
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 21 จำกัด (“Wise Estate 21”) ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท จำนวน 300,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 65.00 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
กุมภาพันธ์
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 22 จำกัด (“Wise Estate 22”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เมษายน
บริษัทเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากเดิม 899,121,119 บาท เป็น 899,554,744 บาท บริษัทจึงจะมีทุนจดทะเบียน จำนวน 1,363,106,937 บาท และทุนชำระแล้วจำนวน 899,554,744 บาทแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 899,554,744 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น
พฤษภาคม
จัดตั้งบริษัท ไทเทิ้ล โฮเทล บางเทา1 จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ เอสเตท 13 จำกัด (“Wise Estate 13”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 13 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน ให้กับบริษัท ทาคาระ เลเบ็น (ไทยแลนด์) จำกัด (“Takara Leben (TH)” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
บริษัทเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากเดิม 899,554,744 บาท เป็น 899,555,549 บาท บริษัทจึงจะมีทุนจดทะเบียน จำนวน 1,410,406,937 บาท และทุนชำระแล้วจำนวน 899,555,549 บาทแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 899,555,549 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น
มิถุนายน
จัดตั้งบริษัท แซนด์เดรา เรสเตอรอง บางเทา จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหาร
สิงหาคม
จัดตั้งบริษัท ไทเทิ้ล กะตะ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสพีวี1 จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจด้านการเงินและการลงทุน
บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไพร์ซ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (“Prize Prop”) ซึ่งในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนของ Prize Prop จากบริษัท ไอดีล เรียล จำกัด โดยเป็นการซื้อหุ้นกลับคืนตามสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นในการร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการซึ่งผลของการเข้าซื้อหุ้นสามัญดังกล่าว จะทำให้ Prize Prop กลับมามีสภาพเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
ตุลาคม
จัดตั้งบริษัท ไทเทิ้ล เอสเตท 1 จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
บริษัทเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากเดิม 899,555,549 บาท เป็น 899,744,549 บาท บริษัทจึงจะมีทุนจดทะเบียน จำนวน 1,410,406,937 บาท และทุนชำระแล้วจำนวน 899,744,549 บาทแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 899,744,549 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น
พฤศจิกายน
บริษัทเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากเดิม 899,744,549 บาท เป็น 899,744,550 บาท บริษัทจึงจะมีทุนจดทะเบียน จำนวน 1,410,406,937 บาท และทุนชำระแล้วจำนวน 899,744,550 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 899,744,550 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น
จัดตั้งบริษัท เวลธั้น จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการและรับเป็นที่ปรึกษา
บริษัทดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้างของบริษัท และบริษัทย่อย ครั้งที่ 1 (Employee Joint Investment Program “EJIP” No.1) ระยะเวลาโครงการ 3ปี ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2568–31ธันวาคม 2570
2567
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการ 12 โครงการ มูลค่า 25,920 ล้านบาท
บริษัทได้รับ 3 รางวัล จาก PropertyGuru Thailand Property Awards 2024 ดังนี้
- Winner สาขา “Best Condo Architectural Design (Eastern Seaboard)” จากโครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya)
- Winner สาขา “Best Housing Development (Greater Bangkok)” และ Winner สาขา “Best Housing Architectural Design (Greater Bangkok)” จากโครงการเอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani)
- Highly Commended รางวัล “Best Luxury Housing Development (Bangkok)” จากโครงการดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana)
บริษัทได้รับรางวัล LIVING INSIDER AWARDS 2024 ในประเภท Best Investment Condo Award จากโครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) และรางวัล Best Amenity Home Award จากโครงการ “ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา” (The Honor Yothinpattana)
บริษัทได้รางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น จำนวน 3 โครงการ จาก Asia Pacific Property 2024 ดังนี้
- Best Residential High Rise Development Thailand จากโครงการ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng
- Award Winner: Residential Development Thailand จากโครงการ Atmoz Oasis Onnut
- Award Winner: Residential Interior Show Home Thailand จากโครงการ Atmoz Portrait Srisaman
ได้รับการประเมินให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน และอยู่ในกลุ่ม TOP QUARTILE ในกลุ่ม Market Cap. 3,000 - 9,999 ล้านบาท จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.)
โครงการ Modiz Sukhumvit 50 รับรางวัลโครงการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone, LEZ) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระยะที่ 2 จากศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศวอ.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
บริษัทได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทอาคารสำนักงานเอกชน ต้นแบบการจัดการขยะครบวงจร ในโครงการคัดแยกขยะครบวงจรระดับ 50 เขต ประจำปี 2567
บริษัทได้รับใบประกาศเกียรติคุณ โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
บริษัทติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ “AA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
บริษัทได้รับกิตติกรรมประกาศ (Sustainability Disclosure Acknowledgement) เปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน ประจำปี 2567 จากสถาบันไทยพัฒน์

มกราคม
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 13 จำกัด (“Wise Estate 13”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 16 จำกัด (“Wise Estate 16”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
กุมภาพันธ์
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 17 จำกัด (“Wise Estate 17”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 18 จำกัด (“Wise Estate 18”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
มีนาคม
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 8 จำกัด (“Wise Estate 8”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 8 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน หรือ จำนวน 4,900 หุ้น ให้กับ บริษัท ทาคาระ เลเบ็น (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Takara Leben Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
เมษายน
บริษัทขยายระยะเวลาการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 85,612,111 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท (หรือ คิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ณ วันที่ประชุม คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2566 ประชุมเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
กรกฎาคม
บริษัท 39 เอสเตท จำกัด (“บจก.39 เอสเตท”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (“บมจ.ร่มโพธิ์ฯ”) ในสัดส่วนร้อยละ 57.79 ของทุนจดทะเบียนของ บจก.ร่มโพธิ์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ทั้งนี้ บมจ. ร่มโพธิ์ฯ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขาย โดยเน้นการพัฒนาโครงการพักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในย่านทำเลที่มีศักยภาพ ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้แบรนด์ "The Title" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความคุ้มค่าและความประทับใจแก่ลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งผลสำเร็จของการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญดังกล่าว จะทำให้บมจ.ร่มโพธิ์ฯ มีสภาพเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทมีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบมจ.ร่มโพธิ์ฯ จึงได้จัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยกำหนดราคารับซื้อที่ราคา 2.50 บาท รับซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2566
บริษัทออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 43,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่นายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง รวมทั้งมีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ หรือศักยภาพที่เป็นประโยชน์และส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัท และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท และการเสนอขายครั้งนี้เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 8.40 บาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการตามแผนการลงทุน ตลอดจนช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน อีกทั้งเสริมสร้างให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจหลัก และ/หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคตได้อย่างทันกาล ซึ่งส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
บริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว จากเดิม 856,121,119 บาท เป็น 899,121,119 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 19 จำกัด (“Wise Estate 19”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 20 จำกัด (“Wise Estate 20”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
สิงหาคม
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 18 จำกัด (“Wise Estate 18”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 18 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน หรือ จำนวน 4,900 หุ้น ให้กับ Tokyo Tatemono Asia Pte. Ltd. (“TTA”) บริษัทย่อยของ Tokyo Tatemono Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
กันยายน
บริษัท 39 เอสเตท จำกัด (“บจก.39 เอสเตท”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบมจ. ร่มโพธิ์ฯ ได้ยื่นรายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 256-2) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบจก.39 เอสเตท ได้รับซื้อหลักทรัพย์จากผู้ที่แสดงเจตนาขายในระหว่างระยะเวลารับซื้อหลักทรัพย์ จำนวนร้อยละ 9.82 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของบมจ.ร่มโพธิ์ฯ ทำให้บจก.39 เอสเตท ถือหุ้นในบมจ.ร่มโพธิ์ รวมทั้งสิ้น ร้อยละ 67.61 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของบมจ.ร่มโพธิ์ฯ
พฤศจิกายน
จัดตั้งบริษัท เอ เอช จี จำกัด (“AHG”) ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น
จัดตั้งบริษัท เอ เอช จี ริเวอร์ไซด์ จำกัด (“AHG Riverside”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบจก. เอ เอช จี ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ธันวาคม
บริษัทจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 17 จำกัด (“Wise Estate 17”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 17 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน ให้กับ บริษัท ไอดีล เรียล จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
จัดตั้งบริษัท ร็อคเก็ต ฟิตเนส จำกัด (“Rocket”) ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท จำนวน 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 70 เพื่อประกอบธุรกิจศูนย์ฟิตเนสและการออกกำลังกายทุกประเภท
- กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการ 15 โครงการ มูลค่า 30,260 ล้านบาท
- บริษัทได้รับรางวัล Award Winner จากโครงการโมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ (Modiz Collection Bangpho) จากเวที Asia Pacific Property Awards 2023-2024
- บริษัทได้รับรางวัล Developer of the Year 2023 จากงาน DOT PROPERTY THAILAND
- บริษัทได้รับรางวัล Best Investment Condo สำหรับโครงการ Modiz Launch by AssetWise จากงาน Living Insider Award 2023
- บริษัทได้รับรางวัล BCI Asia Top Ten Developers Awards 2023 สำหรับโครงการ Kave Embryo รังสิต จากงาน BCI Asia Awards 2023
- บริษัทได้รับรางวัล Winner Award สุดยอดโครงการอสังหาฯ ดีเด่นแห่งปี สำหรับโครงการ The Arbor Donmueang-Chaengwatthana จากงาน Property Guru Asia Property Awards 2023 ในสาขาสาขา Best Housing Development (Bangkok)
- บริษัทได้รับรางวัล Winner Award สุดยอดโครงการอสังหาฯ ดีเด่นแห่งปี สำหรับโครงการ The Arbor Donmueang-Chaengwatthana จากงาน Property Guru Asia Property Awards 2023 ในสาขาสาขา Best Housing Development (Bangkok)
- บริษัทได้รับรางวัล Highly Commended ในสาขา Best Condo Development (Phuket) สำหรับโครงการ The Title Halo 1 จากงาน Property Guru Asia Property Awards
- บริษัทได้รับรางวัล Best Developer Southeast Asia 2023 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของเวที Dot Property Southeast Asia Awards 2023
- บริษัทได้รับรางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 จาก HR Asia
- บริษัทรับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี 2566
- บริษัทได้รับรางวัล “หนังสือชมเชย ผู้ช่วยเหลือราชการป่าใหม่” สาขาส่งเสริมและพัฒนาป่าชุมชน จากรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- บริษัทได้รับผลการประเมินการกำกับดููแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ไทย (CGR) ระดับดีเลิศ จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD) นอกจากนี้ ยังได้คะแนนโดยรวมสูงติดอยู่ในกลุ่ม Top Quartile ทั้งในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนโดยรวม กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,000-9,999 ล้านบาท
- บริษัทได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในระดับ “A” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มโดยคำนึงถึงสังคม ชุมชนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล
- บริษัทได้รับการรับรองเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC)

มกราคม
จัดตั้งบริษัท ดับบลิวเอชบี จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจสุขภาพและความงาม
เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด (“บจก.แม็กซี่ฯ”) ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วของ บจก.แม็กซี่ฯ ในมูลค่าเงินลงทุนรวม 126,267,800 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ทั้งนี้ บจก.แม็กซี่ฯ ประกอบกิจการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ในรูปแบบคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ MAXXI Prime (Ratchada - Sutthisan) ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 3 จำกัด (“Wise Estate 3”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 3 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน หรือ จำนวน 4,900 หุ้น ให้กับ Takara Leben Co.,Ltd. (“Takara”) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
เมษายน
บริษัทลดทุนจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่ายของบริษัทจากการออกหุ้นสามัญเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล จำนวนจำนวน 3,881 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 856,125,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 856,121,119 บาท แบ่งออกเป็น 856,121,119 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 856,121,119 บาท เป็น 1,363,106,937 บาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 506,985,818 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) การออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (ASW-W1) การออกเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ และการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (ASW-W2)
พฤษภาคม
บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (ASW-W1) จำนวนไม่เกิน 285,373,707 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)
มิถุนายน
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 11 จำกัด (“Wise Estate 11”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ซินเนอจี้ เอสเตท จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท) ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 12 จำกัด (“Wise Estate 12”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ซินเนอจี้ เอสเตท จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท) ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
กันยายน
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 7 จำกัด (“Wise Estate 7”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 7 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน หรือ จำนวน 4,900 หุ้น ให้กับ Tokyo Tatemono Asia Pte. Ltd. (“TTA”) บริษัทย่อยของ Tokyo Tatemono Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
ตุลาคม
บริษัทเสนอขายและจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO) จำนวนไม่เกิน 320,000,000.00 บาท
บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (ASW-W2) จำนวนไม่เกิน 96,000,000 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท)
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 14 จำกัด (“Wise Estate 14”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 15 จำกัด (“Wise Estate 15”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท แซ๊ป เวิลด์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (“บจก.แซ๊ป เวิลด์ฯ”) ในสัดส่วนร้อยละ 41.18 ของทุนจดทะเบียนของ บจก.แซ๊ป เวิลด์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต ทั้งนี้ บจก.แซ๊ป เวิลด์ฯ ประกอบธุรกิจในการจัดงานกิจกรรมด้านความบันเทิงต่างๆ อย่างครบวงจร มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำแห่งความบันเทิงและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งในส่วนของงานอีเว้นต์ คอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี ซึ่งผลสำเร็จของการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้ บจก.แซ๊ปเวิลด์ฯ มีสภาพเป็นบริษัทร่วมของบริษัท
พฤศจิกายน
จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไวส์ แอสเตท 10 จำกัด (“Wise Estate 10”) (บริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.97 โดยการเข้าทำรายการ ดังกล่าวเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญของ Wise Estate 10 ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน หรือ จำนวน 4,900 หุ้น ให้กับ บริษัท ทาคาระ เลเบ็น (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Takara Leben Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งเพื่อต่อยอดและสนับสนุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
ธันวาคม
บริษัท ซินเนอจี้ เอสเตท จำกัด (“บจก.ซินเนอจี้ฯ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด (“บจก.โบทานิก้าฯ”) ในสัดส่วนร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนของบจก.โบทานิก้าฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ทั้งนี้ บจก.โบทานิก้าฯ เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ประเภท LUXURY VILLAS ของจังหวัดภูเก็ต ประกอบกิจการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและเพื่อเช่าซื้อระยะยาว ซึ่งผลสำเร็จของการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญดังกล่าว จะทำให้บจก.โบทานิก้าฯมีสภาพเป็นบริษัทร่วมของบริษัท
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการ 8 โครงการ มูลค่า 10,700 ล้านบาท
บริษัทได้รับรางวัล Best Residential Development Thailand จากโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) ในงาน Asia Pacific Property Award Development 2022-2023
บริษัทได้รับรางวัล Winner Award สาขา Best Affordable Condo Development (Bangkok) จากโครงการเคฟ เอวา (Kave AVA) ในงาน Property Guru Thailand Property Award 2022
บริษัทได้รับรางวัล Winner จากงาน ICONIC AWARD : Innovative Architecture ในหมวด Corporate โดย German Design Council
บริษัทได้รับได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. เนื่องในงานวันป่าชุมชนแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เป็นการแสดงเจตนารมณ์ว่าบริษัทมุ่งมั่นในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สนับสนุนกิจกรรมของชุมชนในการดูแล และรักษาพื้นที่ป่าชุมชน
บริษัทรางวัล “หนังสือชมเชย ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้” ในสาขาส่งเสริมและพัฒนาป่าชุมชนเพื่อแสดงว่าองค์กรมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าชุมชนให้อุดมสมบูรณ์ และเป็นการสนับสนุนภารกิจงานด้านป่าชุมชนของกรมป่าไม้ให้สำเร็จลุล่วงตามกรอบที่กำหนด
โครงการ Kave town Space เข้าร่วมโครงการนำร่องทดสอบเกณฑ์การประเมินที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Residence) และได้รับประกาศเกียรติคุณการดำเนินงานที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Residence) ประเภทอาคาร จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
บริษัทได้ขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรองคาร์บอนนิวทรัล ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ครั้งที่ 3/2565 วันที่ 25 มีนาคม 2565
บริษัทขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรองการปล่อยก๊าซปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมติที่ประชุมคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ครั้งที่ 3/2565 วันที่ 25 มีนาคม 2565
บริษัทได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ระดับดีเลิศ จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD)
บริษัทได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมแนวร่วมต่อต้านคอรัปชั่นของภาคเอกชนไทย (CAC)

มกราคม
บริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท ไพรซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้แก้บริษัท ไอดีล เรียล จำกัด โดยทำให้สัดส่วนการลงทุนของบริษัทใน บริษัท ไพรซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลดลงจาก 99.99% เป็น 50.99%
กุมภาพันธ์
กลุ่มบริษัทเปิด Community Mall ชื่อ “Mingle Mall” ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ Kave Town โดยมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านอาหารและร้านค้า 1,924 ตารางเมตร บริหารงานโดย บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด
28 เมษายน
บริษัทฯ เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “ASW”
พฤษภาคม
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 3 จำกัด (“Wise Estate 3”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 4 จำกัด (“Wise Estate 4”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 5 จำกัด (“Wise Estate 5”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 6 จำกัด (“Wise Estate 6”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 7 จำกัด (“Wise Estate 7”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 8 จำกัด (“Wise Estate 8”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 9 จำกัด (“Wise Estate 9”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท 10 จำกัด (“Wise Estate 10”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
กรกฎาคม
จัดตั้งบริษัท ดิจิ โทไนซ์ จำกัด (“DIGI TONIZE”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99.97 เพื่อประกอบธุรกิจศึกษาและลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอลและเทคโนโลยี
บริษัทร่วมมือกับบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub) ในการเปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถแลกสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency) เป็นเงินบาท เพื่อใช้ในการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม
ตุลาคม
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิม 761,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 856,125,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญจดทะเบียนจำนวน 95,125,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
บริษัทจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราประมาณ 0.14706 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 111,912,660 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลประมาณร้อยละ 19.35 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมหลังหักภาษีและทุนสำรองตามกฎหมาย
พฤศจิกายน
บริษัทเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้กับนักลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่
บริษัทเปิด Community Mall ชื่อ “Mingle Market” ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต บริหารงานโดย Treasure M
ธันวาคม
บริษัท ไวส์ เอสเตท 3 จำกัด ลงนามในสัญญาร่วมค้า (Joint Venture) กับบริษัท Takara Leben จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาโครงการ Atmoz Bangna
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการ 6 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท
บริษัทได้รับรางวัล Best Affordable Condominium Bangkok จากโครงการ KAVE TU ในงานประกาศรางวัล PropertyGuru THAILAND PROPERTY AWARDS

มีนาคม
Cerebium แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์บริษัท เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Modiz Launch
เมษายน
TU Prop ลดทุนจดทะเบียนจาก 12 ล้านบาทเป็น 11 ล้านบาท โดยลดหุ้นบุริมสุทธิของบริษัท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
พฤษภาคม
บริษัทแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อ “บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563
บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 206 ล้านหุ้น ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มจาก 555 ล้านบาท เป็น 761 ล้านบาท และเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท เพื่อใช้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการทาวน์โฮม 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่
- Baan Puri Puri Courtyard pattanakarn - พัฒนาการ ซอยพัฒนาการ 38 จำนวน 37 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 608 ล้านบาท ดำเนินการโดย ABJV
- Modiz Rhyme (Ramkhamhaeng) - ถนนรามคำแหง จำนวน 555 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,805 ล้านบาท ดำเนินการโดย Wise Estate 1
- Modiz Launch - ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 466 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,225 ล้านบาท ดำเนินการโดย Cerebium
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Best Condominium Development of Asia Pacific Property Awards 2020-2021 จากโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 15
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Highly commended สำหรับสาขา Best Affordable Condo Development (Bangkok) จากโครงการ Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ในงานประกาศรางวัล Property Guru Thailand Property Awards 2020
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Best Affordable Condominium Bangkok จากโครงการ Modiz สุขุมวิท 50 ในงานประกาศรางวัล DOT Property Thailand Awards 2020
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Best Affordable Condominium Bangkok จากโครงการ Modiz สุขุมวิท 50 ในงานประกาศรางวัล DOT Property Southeast Asia Awards 2020
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Best Residential Development จากโครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ในงานประกาศรางวัล PRIX D’Excellence Awards 2020 FIABCI-Thai

มกราคม
จัดตั้งบริษัท ทียู พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (“TU Prop”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Kave TU
มิถุนายน
จัดตั้งบริษัท แอสเซท เอ พลัส จำกัด (“Asset A Plus”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อทำธุรกิจให้บริการรับฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท วัน จำกัด (“Wise Estate 1”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Modiz รามคำแหง
สิงหาคม
จัดตั้งบริษัท ไวส์ เอสเตท ทู จำกัด (“Wise Estate 2”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Modiz ศรีนครินทร์
ธันวาคม
บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 104.56 ล้านบาท เป็น 555 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 4,504,419 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
TU Prop เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 12 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 90,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น และออกหุ้นบุริมสิทธิ 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาทให้แก่ บริษัทฯ ต่อมาบริษัทฯ ขายหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 10,000 หุ้นให้แก่บริษัท ไอดีล เรียล จำกัด
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการทาวน์โฮม 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ได้แก่
- บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 (ทาวน์โฮม) ซอยลาดพร้าว 41 ดำเนินการโดย ABJV
- Atmoz แจ้งวัฒนะ ถนนประชาชื่น ดำเนินการโดย Estate Q
- Ivory รัชดา 32 ซอยรัชดา 32 ดำเนินการโดย Estate Q
- Modiz Collection บางโพ (High Rise) ถนนประชาราษฎร์ ดำเนินการโดย Estate Q
- Kave TU เฟส 1 ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ดำเนินการโดย TU Property
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Top Ten Developers ในงานประกาศรางวัล BCI Asia Awards 2019 ซึ่งอ้างอิงจากโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71, Atmoz ลาดพร้าว 15 และ Modiz สุขุมวิท 50
บริษัทฯ ได้รับรางวัล Highly commended สำหรับ 4 สาขา ในงานประกาศรางวัล Property Guru Thailand Property Awards 2019 ดังนี้
- Best Boutique Developer
- Best Housing Interior Design จากโครงการ Glam
- Best Mid End Condo Development จากโครงการ Modiz Collection บางโพ
- Best Affordable Condo Development จากโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71
บริษัทฯ ได้รับรางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awards 2019 ระดับ Gold ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต จัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทยร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โครงการ Kave Condo ได้รับรางวัลชนะเลิศ Best Condominium ในงานประกาศรางวัล Asia Pacific Property Awards 2019 - 2020

มีนาคม
จัดตั้งบริษัท เซเรเบียม จำกัด (“Cerebium”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 97 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (วัตถุประสงค์เดิมตอนจัดตั้ง)
มิถุนายน
บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท บ้านภูริ ปุรี โฮลดิ้ง จำกัด โดยจัดตั้งบริษัท เอ บี เจ วี จำกัด (“ABJV”) ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 51 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮม 2 โครงการและโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปี 2561 ABJV เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 51 คงเดิม
จัดตั้งบริษัท พรีวิลเลจ โซลูชั่น จำกัด (“Priv Solution”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการเก็บผลประโยชน์จากลูกค้าต่างประเทศในการขายอสังหาริมทรัพย์
สิงหาคม
Priv Dev เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท จำนวน 300,000 หุ้น โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ซึ่งบริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท บลูเวิร์ค เจวีวัน จำกัด โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 55 และบริษัท บลูเวิร์ค เจวีวัน จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 45 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Modiz สุขุมวิท 50
39 Estate ลดทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท โดยลดมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 100 บาทเป็นหุ้นละ 25 บาท จำนวน 2,000,000 หุ้น โดยสัดส่วนการถือหุ้นคงเดิม
ตุลาคม
จัดตั้งบริษัท บียู เรียลเอสเตท จำกัด (“BU Real Estate”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม โครงการ Kave Town เฟส 3 และ 4
พฤศจิกายน
39 Estate ลดทุนจดทะเบียนจาก 50 ล้านบาทเป็น 12.5 ล้านบาท โดยลดจำนวนหุ้นจาก 2,000,000 หุ้นเหลือ 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท โดยสัดส่วนของการผู้ถือหุ้นคงเดิม
ธันวาคม
ปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทเพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทฯ เข้าถือหุ้นบริษัทย่อย 4 บริษัทเพิ่มเป็นร้อยละ 99.99 ได้แก่ 39 Estate, Prize Prop, Synergy Estate และ Prize Dev โดยทำการแลกหุ้นบริษัทฯ กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทย่อย โดยบริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 45,581 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เพื่อแลกกับหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นบริษัทย่อย 4 บริษัทข้างต้น และหลังจากปรับโครงสร้าง บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเพิ่มจาก 100 ล้านบาท เป็น 104.56 ล้านบาท
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการทาวน์โฮม 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ได้แก่
- Atmoz ลาดพร้าว 15 ซอยลาดพร้าว 15 ดำเนินการโดย Estate Q
- Atmoz ลาดพร้าว 15 ซอยลาดพร้าว 15 ดำเนินการโดย Estate Q
- Kave Town Shift ข้างมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการโดย Estate Q
- Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ซอยสหการประมูล ดำเนินการโดย Estate Q
- Modiz สุขุมวิท 50 (High Rise) ซอยสุขุมวิท 50 ดำเนินการโดย Priv Dev
- Glam (บ้านเดี่ยว) ถนนสตรีวิทยา 2 ดำเนินการโดย Synergy Estate
โครงการ The Honor ได้รับรางวัลชนะเลิศ Architecture Single residence และ Residential Property ในงานประกาศรางวัล Asia Pacific Property Awards 2018 - 2019 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับโครงการที่มีสถาปัตยกรรมดีเด่นและเป็นการพัฒนาอสังสาหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

พฤษภาคม
บริษัทซื้อหุ้นของ 39 Estate จากผู้ถือหุ้นอื่น ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน 39 Estate เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35 เป็นร้อยละ 41.5
กันยายน
บริษัทฯ ซื้อหุ้นของ 39 Estate จากผู้ถือหุ้นอื่น ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน 39 Estate เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35 เป็นร้อยละ 79.5
ธันวาคม
39 Estate ได้รับรางวัลชนะเลิศ โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น พ.ศ. 2560 สำหรับโครงการ Esta Bliss ซึ่งจัดโดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (Agency for real Estate Affairs: AREA)
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม แบบ Low Rise 5 โครงการ ได้แก่
- Brown พหลโยธิน 67 ซอยพหลโยธิน 67 ดำเนินการโดย Estate Q
- Modiz รัชดา 32 ซอยรัชดา 32 ดำเนินการโดย Estate Q
- Atmoz ลาดพร้าว 71 ถนนนาคนิวาส ลาดพร้าว ดำเนินการโดย Estate Q
- Brown รัชดา-ห้วยขวาง ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ11 ดำเนินการโดย Estate Q
- Kave Condo ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการโดย Prize Dev

สิงหาคม
จัดตั้งบริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด (“Treasure M”) ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 96 เพื่อประกอบธุรกิจ Community Mall
ตุลาคม
จัดตั้งบริษัท พรีวิลเลจ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“Priv Dev”) ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 96 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
Prize Prop เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 30 ล้านบาท เป็น 35 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ซึ่งบริษัทฯ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนและซื้อหุ้นเดิมจากครอบครัววิพันธ์พงษ์ ทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 64 เป็นร้อยละ 76
ธันวาคม
บริษัทฯ ซื้อหุ้นของ Synergy Estate จากครอบครัวพันธ์พงษ์ ทำให้สัดส่วนการถือหุุ้นของบริษัทฯ ใน Synergy Estate เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 65
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม แบบ Low Rise 6 โครงการ ได้แก่
- The Honor ซอยลาดพร้าว 81 ดำเนินการโดย Synergy Estate
- Wynn โชคชัย 4 ถนนโชคชัย 4 ดำเนินการโดย Prize Prop
- Wynn พหลโยธิน 52 ซอยพหลโยธิน 52 ดำเนินการโดย Estate Q
- Modiz Station ถนนพหลโยธิน ดำเนินการโดย Estate Q
- Modiz Interchange บริเวณวงเวียนหลักสี่ ดำเนินการโดย Estate Q
- Brown รัชดา 32 ซอยรัชดา 32 ดำเนินการโดย Estate Q
- H2 Glo ซอยรามอินทรา 21 ดำเนินการโดย Estate Q

เมษายน
จัดตั้งบริษัท ไพรซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“Prize Dev”) ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 65 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท
เริ่มก่อสร้างโครงการ The Honor (บ้านเดี่ยว) ซอยลาดพร้าว 81 ดำเนินการโดย Synergy Estate
สิงหาคม
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม แบบ High Rise ซึ่งเป็นโครงการแรกของกลุ่มบริษัท ชื่อโครงการ Episode ถนนพหลโยธิน ดำเนินการโดย Prize Dev

มีนาคม
39 Estate เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 100 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 35
สิงหาคม
จัดตั้งบริษัท ซินเนอจี้ เอสเตท จำกัด (“Synergy Estate”) ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 50 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม แบบ Low Rise รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่
- H2 เฟส 1 ซอยรามอินทรา 21 ดำเนินการโดย Estate Q
- H2 เฟส 1 ซอยรามอินทรา 21 ดำเนินการโดย Estate Q
- Esta Bliss ถนนรามอินทรา ดำเนินการโดย 39 Estate

25 มกราคม
บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 990,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการของกลุ่มบริษัท
จัดตั้งบริษัทใหม่ 3 บริษัท เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับแบรนด์ต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ได้แก่
- บริษัท 39 เอสเตท จำกัด (“39 Estate”) ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 35
- บริษัท ไพรซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (“Prize Prop”) ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท จำนวน 300,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 64
- บริษัท เอสเตท คิว จำกัด (“Estate Q”) ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 60
Estate Q เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.6
กลุ่มบริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม แบบ Low Rise รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่
- B Campus ถนนประชาชื่น จังหวัดนนทบุรี ดำเนินการโดย 39 Estate
- Modiz ลาดพร้าว 18 ซอยลาดพร้าว 18 ดำเนินการโดย Prize Prop
- Esta ถนนพหลโยธิน ดำเนินการโดย 39 Estate

19 มกราคม
จัดตั้งบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท