คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เรียน ท่านผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย

ตลอดระยะเวลากว่า 16 ปี ที่แอสเซทไวส์ได้เติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรามุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศตามวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริษัทตั้งใจสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า รวมถึงใส่ใจในการดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้าของเราเป็นอย่างดีภายใต้แนวคิด “We Build Happiness” และยังคงดำเนินตามปณิธานที่ตั้งมั่นไว้เสมอมา

สำหรับปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับบริษัท เนื่องจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังมีการแข่งขันสูงและมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมหลายราย อุปทานของสินค้าในตลาดยังมีจำนวนมา ทั้งจากโครงการทั้งที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน และที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ระลอกใหม่ที่กลับมารุนแรงขึ้นในช่วงต้นปี 2564 รวมถึงการกำหนดมาตรการปิดที่พักอาศัยชั่วคราวในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ให้หยุดงานก่อนสร้าง และห้ามเดินทาง หรือเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นการชั่วคราว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การฟื้นตัวของธุรกิจที่อยู่อาศัยต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ว่าปัจจัยภายนอกจะยังกดดันอำนาจการจับจ่ายของลูกค้าทั่วไป แต่ด้วยจุดแข็งด้านการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว บริษัทติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับตัวให้สามารถดำเนินงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที ทำให้บริษัทสามารถเติบโตด้วยกลยุทธ์ “Best Choice” ได้อย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านผลประกอบการทางการเงิน โดยสิ้นปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 4,928.43 ล้านบาท มีอัตราขั้นต้นจำนวน 2,201.51 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 43.74 และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,086.62 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 21.59 ซึ่งผลประกอบการดังกล่าวเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา

ในด้านการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจนั้น ในปีที่ผ่านมาบริษัทร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ ทั้งโครงการ KAVE Salaya ที่ร่วมทุนกับบริษัท ไอดีล เรียล จำกัด และ โครงการ ATMOZ Bangna ที่บริษัทได้ตกลงร่วมทุนกับบริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวประเทศญี่ปุ่น โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมากกว่า 500 โครงการ และยังประกอบธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นอีกด้วย นับว่าเป็นการคว้าโอกาสร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติครั้งแรกของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรเป็นครั้งแรก โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) ได้จัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “BBB-“ พร้อมด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมและความน่าเชื่อถือของบริษัทในการจัดหาแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำเพิ่มเติมในอนาคต เพิ่มศักยภาพการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี และในด้านการพัฒนาโครงการนั้น บริษัทได้ขยายโครงการไปนทำเลศักยภาพอีกหลายทำเล โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีในทุกโครงการ

อีกหนึ่งความสำเร็จที่เป็นหมุดหมายสำคัญของบริษัท ได้แก่ การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“SET”) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย ผู้บริโภค คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานในองค์กร รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในด้านธรรมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ทั้งในด้านการเงินและการลงทุนให้กับบริษัท เป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการก้าวกระโดดสู่บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยชั้นนำในประเทศไทย

ท้ายสุดนี้ ในนามของบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนลูกค้าทุกท่านที่ได้ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนบริษัทอย่างดียิ่งตลอดมา และที่สำคัญ ขอขอบคุณคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัททุกท่านสำหรับความทุ่มเททั้งแรงกายแรงจสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทด้วยดีเสมอมา บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน