คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เรียน ท่านผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสีย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิดและปัจจัยค่าครองชีพ ภาระค่าใช้จ่าย และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง กดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดปี 2567 ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเผชิญกับความท้าทายทางการเงินมีภาวะหนี้สินครัวเรือน หนี้นอกระบบ และขาดความเชื่อมั่น รวมถึงความเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการซื้อของลูกค้า แม้ว่าจะมีข่าวดีจากภาครัฐในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ อาทิ การลดค่าธรรมเนียมการโอน การลดค่าจดจำนอง หรือ โครงการสินเชื่อพิเศษสำหรับผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศฟื้นตัวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดได้ในบางพื้นที่จากการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว การลงทุนจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยพยุงตลาดที่อยู่อาศัยไม่ให้หดตัวลงไปมาก โดยเฉพาะด้านมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ภาพรวม

ในปีนี้บริษัทยังเผชิญความท้าทายผ่านปัญหาและอุปสรรคจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังหดตัว แต่บริษัทยังสามารถรักษาการเติบโตด้านยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง จากการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน การขยายไปยังทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ต และการส่งมอบโครงการได้ตามกำหนด ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจ ด้วยแนวคิด “THE NEW FRONTIERS” กับการพัฒนาแอสเซทไวส์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ โดยบูรณาการ 3 กลยุทธ์หลักซึ่งประกอบไปด้วย

  1. Execute การมุ่งมั่นสร้างสรรค์บ้านและคอนโดคุณภาพ รวมถึงการรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท โดยในปีที่ผ่านมาบริษัท ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 36,860 ล้านบาท และสามารถทำยอดขายปี 2567 ได้ถึง 19,330 ล้านบาท สูงทะลุเป้าที่วางไว้ ซึ่งเติบโตกว่า 17% เมื่อเทียบกับปี 2566
  2. Expand การขยายโครงการให้เติบโตในทุกมิติทั้งด้านทำเล สินค้า และราคา โดยยังพัฒนาโครงการต่อเนื่องทั้งในทำเลที่เชี่ยวชาญ และเติบโตไปในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดที่ผันผวน ไม่ว่าจะเป็น EEC หรือ ภูเก็ต
  3. Explore การแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแอสเซทไวส์และเป็นการสร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ให้กับบริษัทในอนาคต นอกจากนี้ยังเดินหน้าทำธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืนควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” เพื่อสร้าง Ecosystem ที่เกื้อหนุนให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในแง่ของการพักอาศัย สิ่งแวดล้อมและสังคม

ด้วยการบริหารงานผ่านแนวคิดและกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวม 19,330 ล้านบาท เติบโตราว 17% จากปี 2566 และเกินกว่าเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ที่ 17,800 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อนหน้า เกินเป้าหมายรายได้เดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 8,700 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิ 1,457 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 33% ซึ่งถือเป็นสถิติรายได้และกำไรสุทธิที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (New High) ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากโครงการที่มีกระแสตอบรับดีและมียอดโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นอย่างเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) มูลค่า 3,500 ล้านบาท และเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 (THE TITLE HALO 1) มูลค่า 1,537 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแรกที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์และทยอยรับรู้รายได้ หลัง ASW เข้าถือหุ้นในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต

โดยตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่แอสเซทไวส์ได้เติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศตามวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริษัทตั้งใจสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า รวมถึงใส่ใจในการดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้าของเราเป็นอย่างดีภายใต้แนวคิด “We Build Happiness” และยังคงดำเนินตามปณิธานที่ตั้งมั่นไว้เสมอ

ท้ายที่สุดนี้ ในนามของบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนลูกค้าทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนบริษัทอย่างดียิ่งตลอดมา และที่สำคัญขอขอบคุณคณะผู้บริหารและพนักงานของบริษัททุกท่าน สำหรับความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทด้วยดีเสมอมา บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืนต่อไป