การจัดการความยั่งยืนในมิติสังคม

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสังคม
กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงคุณค่าทางด้านสังคม โดยบริษัทยึดมั่นอยู่เสมอว่า บริษัทจะก้าวหน้าพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ มีความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบอาชีพ และรับผิดชอบในการพัฒนาสังคมส่วนรวมให้มีความเจริญควบคู่กันไปโดยกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในด้านสังคม ดังนี้

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพในสิทธิมนุษยชน และให้ความสำคัญต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคล โดยบริษัทยึดมั่นที่จะปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียม เป็นธรรม รวมทั้งกำหนดให้การปฏิบัติต่อกัน ในระหว่างพนักงานเป็นไปด้วยความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในด้านแรงงาน โดยปฏิบัติเสมอภาค และเท่าเทียมกันในทุกกระบวนการของการจ้างงาน นับแต่กระบวนการสรรหา จ่ายค่าตอบแทน การประเมินผลการปฏิบัติงาน และอื่นๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ อีกทั้งบริษัทร่วมส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และจะไม่มีส่วนร่วมในการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน โดยจะไม่ใช้แรงงานบังคับ ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม รวมทั้งใช้แรงงานที่มาจากการค้ามนุษย์ หรือแรงงานเด็กอันมิชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานถือเป็นทรัพยากรอันมีค่าสูงสุดและเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ บริษัทจึงมุ่งพัฒนา เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรและบรรยากาศการทำงานที่ดี รวมทั้งส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและสร้างความรัก ความสามัคคีภายในบริษัท และมีการปฏิบัติต่อพนักงานบนพื้นฐานของคุณธรรม นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของพนักงานอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
- ปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความสุภาพ และให้ความเคารพต่อ เกียรติ ศักดิ์ศรี ความเป็นปัจเจกชนและ สิทธิมนุษยชนของพนักงาน
- คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน โดยการจำกัดการเปิดเผยและการใช้ข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน อาทิ ประวัติครอบครัว เงินเดือน ผลการประเมิน ประวัติการรักษาพยาบาล ให้ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่าที่จำเป็น และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของพนักงานต่อบุคคลภายนอกก่อนได้รับอนุญาตจากพนักงาน เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงหรือดำเนินการในทางกฎหมาย
- ให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการว่าจ้าง แต่งตั้ง และโยกย้าย รวมถึงให้รางวัลหรือพิจารณาความดีความชอบ และการลงโทษพนักงาน กระทำด้วยความสุจริตใจและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสมของพนักงาน และระเบียบข้อบังคับของบริษัท โดยไม่คำนึงถึงเพศ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความเชื่อ
- จ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานเป็นธรรม และสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยพิจารณาจากผลการดำเนินการของบริษัท ประกอบกับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน โดยบริษัทจะจัดการค่าจ้าง เงินเดือน และผลประโยชน์ให้สามารถจูงใจ และรักษาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถไว้กับบริษัท
- ดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานอยู่เสมอ และให้มีสุขอนามัยที่ดีในสถานที่ทำงาน ตลอดจนจัดให้มีสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ของพนักงาน เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การรักษาพยาบาล การตรวจสุขภาพประจำปี เงินช่วยเหลือสมรส เงินช่วยเหลืองานศพ ประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ ฯลฯ และสื่อสารให้พนักงานใช้สวัสดิการอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาคุณภาพที่ดีของชีวิตพนักงานทุกคน
- ให้ความสำคัญกับการพัฒนา เพิ่มพูนทักษะและศักยภาพเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตในสายงาน โดยเปิดโอกาสให้พนักงานมีการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
- ยึดมั่นปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยง การกระทำใดๆ ที่ไม่เป็นธรรม หรือก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อพนักงาน
- ปลูกฝังและสร้างจิตสำนักที่ดีให้พนักงานรู้จักการแบ่งปัน การเป็นผู้ให้ การเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกันและเป็นพลเมืองดีของสังคม
- กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยสุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของพนักงาน และกำกับดูแลให้พนักงานปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ โดยมีนโยบายด้านความปลอดภัยฯ ดังนี้
- มุ่งมั่นสนับสนุนให้การดำเนินกิจกรรมของบริษัทควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยและข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- กำหนดให้ความปลอดภัยในการทำงานถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบอันดับแรกในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน
- กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องกระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้นำ อบรม ฝึกสอน จูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย
- กำหนดให้พนักงานทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนทรัพย์สินของบริษัทเป็นสำคัญ ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน
- กำหนดให้พนักงานทุกคนต้องดูแลทำความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ ที่ปฏิบัติงานของตนเองอยู่เสมอ
- มุ่งมั่นสนับสนุนให้มีกิจกรรมความปลอดภัยที่ช่วยกระตุ้นส่งเสริมและพัฒนาจิตสำนึกของพนักงานให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน
- มุ่งมั่นสนับสนุนให้มีการทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาระบบการบริหารงานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
- จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการที่มาจากการเลือกตั้งของพนักงาน เพื่อทำหน้าที่ให้การดูแล และเป็นตัวแทนของพนักงานในการต่อรองสิทธิประโยชน์ของพนักงานต่อบริษัท
บริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้กับลูกค้า ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ บริษัทจึงพยายามแสวงหาวิธีการที่จะสนองความต้องการของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลอยู่ตลอดเวลา จัดให้มีระบบการบริหารดูแลลูกค้าภายหลังการขาย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
- ส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ตรงตามหรือสูงกว่าความคาดหมายของลูกค้าในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งสินค้าและบริการดังกล่าวต้องปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกค้าและไว้วางใจได้ ไม่จำกัดสิทธิของลูกค้าในการที่จะเข้าถึงสินค้าและบริการของบริษัท รวมถึงกำหนดเงื่อนไขทางการค้าที่เป็นธรรมแก่ลูกค้า
- ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพียงพอ และทันต่อเหตุการณ์แก่ลูกค้า เพื่อป้องกันมิให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ หรือ เงื่อนไขใดๆ ของสินค้า หรือ บริการนั้นๆ โดยไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง
- ติดต่อกับลูกค้าด้วยความสุภาพ มีประสิทธิภาพ เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า รวมทั้งให้มีความรวดเร็วในการสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด
- จัดให้มีมาตรการรักษาความลับของลูกค้า โดยจะดูแลไม่ให้มีการนำข้อมูล หรือความลับของลูกค้าไปใช้ เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้เกี่ยวข้องโดยมิชอบ และจะไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า หรือ จากผู้มีอำนาจของบริษัทก่อน เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงหรือดำเนินการในทางกฎหมาย
- จัดทำเอกสารแนะนำทีมงานบริการให้กับลูกค้าภายหลังการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงติดตามและสอบถามความพึงพอใจของลูกค้า และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกบ้าน รวมถึงการสนับสนุนการดำเนินงาน ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของลูกค้า
- จัดช่องทางให้ลูกค้าสามารถเสนอข้อแนะนำ ร้องเรียนหรือร้องทุกข์จากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือ ขอรับความช่วยเหลือและคำแนะนำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทได้
บริษัทมีนโยบายที่จะให้การปฏิบัติต่อคู่ค้าและกำหนดแนวปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเสมอภาค และเป็นธรรม โดยการดำเนินการใดๆ ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงความถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติที่สำคัญ รวมทั้งปฏิบัติตามพันธะสัญญากับคู่ค้า และคำนึงถึงความเสมอภาคในการดำเนินธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกันกับคู่ค้า จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
- บริษัทปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเสมอภาคภายใต้หลักเกณฑ์เงื่อนไขเดียวกันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกราย
- เปิดโอกาสให้คู่ค้ารายใหม่สามารถเข้ามาร่วมงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านฝีมือและเทคโนโลยีใหม่ โดยมีกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
- ให้ข้อมูลที่เป็นจริง และรายงานที่ถูกต้องแก่คู่ค้า
- ไม่เรียก ไม่รับ หรือจ่ายผลประโยชน์ใดๆ ที่ไม่สุจริตในทางการค้ากับคู่ค้า รวมทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นธรรม บริษัทกำหนดห้ามมิให้รับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดจากคู่ค้า หรือบุคคลอื่นที่มีหน้าที่หรือธุรกิจเกี่ยวข้องกับบริษัท โดยหากเป็นการรับของขวัญอันเนื่องมาจากประเพณีนิยมปกติ เช่น เทศกาลปีใหม่ ให้ส่งของขวัญดังกล่าวไปยังฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อดำเนินการใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวมต่อไป
- สนับสนุนให้คู่ค้าของบริษัทให้ความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยไม่ให้สินบนในทุกรูปแบบแก่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ พนักงานของบริษัท เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานที่ไม่ถูกต้องในทุกกรณี
- ปฏิบัติตามสัญญา หรือเงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อใดได้ต้องรีบแจ้งคู่ค้า เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขบนพื้นฐานความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
- กำหนดเวลาในการจ่ายเงินค่าสินค้าและค่าจ้างโดยชัดเจนและตรงต่อเวลา
- ดูแลและช่วยเหลือคู่ค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับธุรกิจของบริษัท โดยไม่เอาเปรียบทางการค้า
- มีช่องทางให้คู่ค้าสามารถร้องเรียนจากการถูกกลั่นแกล้ง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยสามารถร้องเรียนต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานกรรมการตรวจสอบ และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
- จัดให้มีมาตรการรักษาความลับของคู่ค้าโดยจะดูแลไม่ให้มีการนำข้อมูล หรือความลับของคู่ค้าไปใช้
เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้เกี่ยวข้องโดยมิชอบ และจะไม่เปิดเผยข้อมูลของคู่ค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก คู่ค้า หรือ จากผู้มีอำนาจของบริษัทก่อน เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงหรือดำเนินการในทางกฎหมาย
บริษัทตระหนักดีว่า การให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นภัยร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำและประกาศใช้นโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและการติดสินบน แยกเฉพาะเรื่องอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและการติดสินบน โดยมีนโยบายหลัก ดังนี้
“ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ยอมรับการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ ทั้งกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานของเอกชน หรือบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ได้มาซึ่งธุรกิจของบริษัท หรือผลประโยชน์แก่ตนเอง อันไม่เหมาะสมตามหลักจริยธรรม ได้แก่ การให้คำรับรองว่าจะให้ หรือ รับสิ่งของ ของขวัญ การเลี้ยงรับรอง รับเงินเรี่ยไร เงินบริจาค และประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่ทำธุรกิจ เป็นต้น
ทั้งนี้ นโยบายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและการติดสินบน ครอบคลุมถึงคู่ค้าธุรกิจ ลูกค้า ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททุกฝ่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริษัทจัดให้มีการสอบทานการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและการติดสินบน โดยการจัดให้ทดสอบความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและการติดสินบนเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินผลความเข้าใจของพนักงานต่อการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและการติดสินบน และทำการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดทุจริตคอรัปชั่น เพื่อกำหนดแนวทางและแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการทุจริตคอรัปชั่น พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารความเสี่ยงด้านทุจริตคอรัปชั่น รายการติดสินบนทางองค์กร รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานถึงนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นของบริษัท เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง”
บริษัทตระหนักอยู่เสมอว่า บริษัทเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งต้องรับผิดชอบช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนกิจกรรมของชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจของชุมชน เพราะบริษัทเชื่อมั่นว่า บริษัทจะก้าวหน้าพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืน และอยู่รอดในสังคมได้ นอกจากจะต้องเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ มีความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบอาชีพแล้ว บริษัทจะต้องรับผิดชอบในการพัฒนาสังคมส่วนรวมให้ดียิ่งขึ้น จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
- ยึดมั่นเป็นพันธะสัญญาในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์และความยั่งยืนของชุมชนสังคม และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
- มีนโยบายในการประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดให้การปฏิบัติงานอันเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และเป็นไปตามกฎหมายที่ควบคุมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนกำหนดให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
- ปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างความตระหนักพร้อมทั้งสื่อสารและให้ความรู้แก่พนักงานในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้พนักงานของบริษัททุกระดับอย่างต่อเนื่อง
- สำรวจและทำความเข้าใจระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันมิให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทกระทบต่อวิถีสังคม หรือชุมชนนั้นๆ รวมถึงเคารพต่อขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของ แต่ละท้องถิ่นที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ
- สามารถปรับตัวภายใต้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และตอบสนองอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพต่อเหตุการณ์ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน ชีวิตและทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการดำเนินงานของบริษัท ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ดำเนินกิจกรรมเพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ชุมชนที่บริษัท ตั้งอยู่หรือเข้าไปดำเนินธุรกิจ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดำเนินการเองและร่วมมือกับหน่วยงานของภาครัฐภาคเอกชนและชุมชน
- ดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
- สนับสนุนและส่งเสริมในการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และปรับปรุงคุณภาพชีวิตมนุษย์ด้วยการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยถือว่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกคน
- พัฒนาโครงการที่สามารถเสริมสร้างประโยชน์ต่อชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการติดตามและวัดผลความคืบหน้าในระยะยาว
ผลการดำเนินงานด้านสังคม
กลุ่มบริษัทถือว่าพนักงานเป็นทรัพยากรอันมีค่าสูงสุดและเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัท ด้วยเหตุดังกล่าวบริษัทจึงมุ่งพัฒนา เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรและบรรยากาศการทำงานที่ดี รวมทั้งส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและสร้างความรักความสามัคคีภายในกลุ่มบริษัท จึงได้ดำเนินการในด้านต่างๆ ในการดูแลพนักงาน เพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัท ได้อย่างยั่งยืน

การจ้างงาน
กลุ่มบริษัทมีแนวทางปฏิบัติในการสรรหาและว่าจ้างพนักงาน โดยพิจารณาตามคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน โดย การไม่เลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากความหลากหลายของบุคคล อาทิ เพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง เป็นต้น โดยมีระบบการสรรหาและคัดเลือกพนักงานที่เป็นธรรมและเท่าเทียม โดยพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ทำงาน และทัศนคติตามความเหมาะสมของแต่ละตำแหน่งงาน
บริษัท มีการว่าจ้างพนักงานจำนวน
ในปี 2565 บริษัท มีการว่าจ้างพนักงานจำนวน 453 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 179 คน และเพศหญิง 274 คน และมีการว่าจ้างผู้พิการซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 จำนวน 3 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.66 โดยมีความหลากหลายในแต่ละด้าน ดังนี้
แบ่งตามเพศ
แบ่งตามระดับ
แบ่งตามช่วงอายุ
การพัฒนาพนักงาน
กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถและศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่องในทุกระดับให้เหมาะสมกับตําแหน่งงาน เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ บริษัท จึงมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรทุกสายวิชาชีพในทุกระดับ โดยผสมผสานทั้งการพัฒนาด้านทักษะ ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนการปลูกฝังวัฒนธรรมและจริยธรรมขององค์กรควบคู่กัน เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และแนวทางในการดําเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท
โดยในปี 2565 บริษัทได้กำหนดเป้าหมายด้านการพัฒนาบุคลากรขึ้น ซึ่งกำหนดจำนวนหลักสูตรฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกรวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 60 หลักสูตร โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริม พัฒนาความรู้ ประสบการณ์ ทักษะ ความชำนาญในการทำงาน (Upskills & Reskills) ตลอดจนสร้างการตระหนักรู้ ทัศนคติใหม่ๆ ที่จำเป็นในการทำงานยุคปัจจุบันของบุคลากรในทุกระดับให้สอดรับ เป็นไปในทิศทางที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์องค์กร ตลอดจนส่งเสริมความก้าวหน้าในการเติบโตทางสายอาชีพ (Career Development) นำสู่การเพิ่มพูนระดับความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement) ให้มากขึ้นซึ่งมีผลต่อความทุ่มเท และเอาใจใส่ในการทำงานเพื่อบรรลุงผลสำเร็จขององค์กรร่วมกัน ประกอบไปด้วยแนวปฏิบัติต่างๆ ได้แก่

พนักงานใหม่ที่จะเข้ามาร่วมงานกับบริษัท ต้องไปรับการอบรมปฐมนิเทศก่อนเริ่มงานทุกคน ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานใหม่ได้เข้าใจถึงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ของบริษัท อาทิ โครงสร้าง ระบบงานต่างๆ ในบริษัท ระเบียบข้อบังคับ นโยบายที่สำคัญต่างๆ การประกอบธุรกิจ สินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท เป็นต้น พร้อมทั้งมีการแนะนำฝ่ายงานต่างๆ ของบริษัทให้พนักงานใหม่ได้รู้จักเพื่อสะดวกต่อการติดต่อประสานงานต่อไป
บริษัท มีการนำการวางแผนงานการพัฒนาและฝึกอบรม (Training and Development Plan) และ การวางแผนความก้าวหน้าในอาชีพ (Career Development Plan) เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานสามารถเติบโตในองค์กร และนำศักยภาพมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสร้างความผูกพันต่อองค์กร เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อกลยุทธ์และเป้าหมายหลักของบริษัท อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยมีแนวทางการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมภายในองค์กร ดังนี้
- คุณลักษณะตามค่านิยมร่วมขององค์กร (Core Competency)
- ความสามารถหลักของผู้นำ (Leadership Competency)
- ความสามารถตามสายอาชีพ (Functional Competency)
ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานและผู้บริหารสามารถปฏิบัติงานได้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร มีทักษะ ความรู้ความสามารถตามสายวิชาชีพและกลุ่มงานที่รับผิดชอบ และมีความเป็นผู้นำและความรู้ความสามารถ ในการบริหารจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตไปพร้อมกับบริษัท
บริษัท มีนโยบายในการบริหารจัดการพนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเลิศ (High Performer) และ มีศักยภาพสูง (High Potential) เปิดโอกาสให้บุคลากรที่มีผลงานโดดเด่นได้เติบโต (Career Opportunity) พร้อมสร้างความมั่นใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร
บริษัท มีนโยบายแผนการสืบทอดตำแหน่งในตำแหน่งงานบริหารที่สำคัญของกลุ่มบริษัท โดยมีการจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งในระดับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงาน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมีกรอบการกำหนดแผนการสืบทอดตำแหน่งที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์และประเมินความพร้อมของกำลังคนเพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจและกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท มีการกำหนดแผนสรรหาและพัฒนาฝึกอบรม รวมถึงคุณสมบัติและความสามารถที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งและจัดทำแผนพัฒนาเป็นรายบุคคล (Individual Development Plan) มีการคัดเลือก ประเมินผลงานและศักยภาพ เพื่อระบุผู้สืบทอดตำแหน่ง เพื่อให้เตรียมตัวรับมอบและเรียนรู้งาน และมีการพัฒนาและติดตามประเมินอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับสืบทอดตำแหน่งได้ตามที่คาดหวัง
ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัท มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับพนักงานรวมทั้งหมด 79 หลักสูตร ดังนี้
การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ
บริษัท ได้ให้ความสำคัญกับการจ่ายค่าตอบแทน ในรูปแบบของเงินเดือน โดยมีการกำหนดโครงสร้างของเงินเดือนที่เหมาะสมกับตลาดแรงงานในธุรกิจประเภทเดียวกันได้ บริษัท จะพิจารณาเงินเดือนจากศักยภาพ หน้าที่ความรับผิดชอบ ความรู้ความสามารถของพนักงานในแต่ละตำแหน่งงาน ทั้งนี้บริษัท ได้กำหนดให้มีการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนประจำปีและโบนัสให้แก่พนักงานตามผลประเมินการทำงานประจำปีของพนักงานและและผลการดำเนินงานของบริษัท โดยกำหนดให้มีระบบการประเมินผลและการตัวชี้วัดผลการทำงานที่ชัดเจนของพนักในทุกคนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่พนักงาน
นอกจากนี้บริษัท ได้จัดให้มีสวัสดิการสำหรับพนักงานที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับพนักงานทุกคนทุกระดับ เพื่อดูแลพนักงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้
นอกจากนี้บริษัทยังจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการ โดยการเลือกตั้งของพนักงานในบริษัท โดยคณะกรรมการสวัสดิการจะเป็นตัวแทนของพนักงานในการแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายด้านสวัสดิการและการดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานภายในบริษัท
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
บริษัท กำหนดให้มีนโยบายด้านความปลอดภัยสุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของพนักงาน และกำกับดูแลให้พนักงานปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทั้งในสำนักงานใหญ่และสำนักงานโครงการ โดยยึดปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัย พร้อมการจัดกิจกรรม การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัทและการฝึกอบรม เพื่อสร้างความตระหนักของพนักงานทุกคน


ในส่วนของสำนักงานใหญ่ บริษัท จัดให้มีการควบคุมความปลอดภัยของอาคารสถานที่ทำงาน กำหนดแผนการตรวจสอบซ่อมแซมอาคาร อุปกรณ์สำนักงาน ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง ระบบดับเพลิงประจำปี การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นระเบียบ สะอาด เพื่อเอื้อต่อความสะดวกและคุณภาพที่ดีในการทำงานของพนักงาน การจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ เพื่อสงเสริมสุขภาพอนามัยของพนักงาน และการจัดอบรมให้ความรู้พนักงานในเรื่องความปลอดภัย และการจัดฝึกอบรมการดับเพลิงและฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟขณะเกิดเพลิงไหม้
สำหรับโครงการก่อสร้าง บริษัท กำหนดมีการจัดทำรายงานความปลอดภัยของโครงการก่อสร้าง การตรวจสอบความปลอดภัย การให้ความรู้ ข้อคำแนะนำ และร่วมแก้ไขสภาพงานที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับบริษัทผู้รับเหมา เพื่อควบคุมความปลอดภัยในด้านต่างๆ ในขณะที่มีการก่อสร้าง รวมถึงการรักษาความสะอาด สุขอนามัยภายในโครงการก่อสร้างและชุมชนข้างเคียงโครงการก่อสร้าง ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงานต้องระมัดระวังอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอนของการทำงานทั้งด้านการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย การระมัดระวังและความชำนาญในทำงานที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายทั้งต่อผู้ทำงานและชุมชนข้างเคียง รวมถึงในทุกโครงการก่อสร้างจะต้องจัดให้มีป้ายสำหรับรายงานสถิติความปลอดภัยอยู่หน้าโครงการ เพื่อรายงานด้านความปลอดภัยอย่างทันถ่วงทีต่อเนื่อง และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของงานก่อสร้างโครงการทั้งต่อผู้ปฏิบัติงานและชุมชนข้างเคียง

สถิติความปลอดภัย ประจำปี 2565
ข้อมูลความปลอดภัย | หน่วย | จำนวนพนักงาน | จำนวนผู้รับเหมา | บุคคลภายนอก |
---|---|---|---|---|
อัตราการเกิดอุบัติเหตุ | ครั้ง | ไม่มี | 4 | ไม่มี |
อัตราผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน | คน | ไม่มี | 5 | ไม่มี |
อัตราวันหยุดงานจากการบาดเจ็บในการทำงาน | วัน | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
อัตราคนหยุดงานจากการบาดเจ็บในการทำงาน | คน | ไม่มี | 1 | ไม่มี |
จำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำงาน | คน | ไม่มี | 2 | ไม่มี |
มาตรการดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน นสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19
มาตรการสำนักงานใหญ่
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แม้ว่าสถานการณ์ในปีจะคลี่คลายลง แต่ทางกลุ่มบริษัทยังคงตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานทั้งของพนักงาน จึงได้ให้มีมาตรการในการควบคุมการระบาดของโรคที่เข้มงวดมากขึ้น โดยพนักงานที่มีความเสี่ยงสามารถทำงานที่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการรวมตัวในสำนักงานและจากการเดินทาง จัดให้มีการประชุมในรูปแบบของการประชุมออนไลน์ผ่านโปรแกรมต่างๆ เพื่อลดการรวมตัวกันของพนักงานภายในห้องประชุม ในขณะเดียวกัน ได้จัดให้มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อในอาคารสำนักงานอย่างสม่ำเสมอ การคัดกรองอุณหภูมิพนักงานในการเข้ามาภายในสำนักงาน รวมถึงจัดให้มีจุดล้างมือ และบริการแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือกระจายทั่วทั้งสำนักงาน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจการติดเชื้อโควิด-19 Antigen test kit หรือ ATK ให้แก่พนักงานที่มีความเสี่ยง พร้อมทั้งการจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่พนักงานทุกคน รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน ของกลุ่มบริษัท ทั้งนี้ในปี 2565 พนักงานทุกคนของบริษัทได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วครบถ้วน 100%
ในกรณีพนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มบริษัทได้จัดให้มีการดูแลพนักงานตามมาตรการของสาธารณสุข และจัดเตรียมกล่องยาเพื่อรักษาพื้นฐานให้แก่พนักงาน รวมถึงการติดตามอาการของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ
มาตรการโครงการก่อสร้าง
สำหรับโครงการก่อสร้าง กลุ่มบริษัทได้ดูแลแรงงานผู้รับเหมาในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งในส่วนของการจัดให้มีคัดกรองอุณหภูมิแรงงานผู้รับเหมาก่อนเข้าทำงาน การจัดให้มีอุปกรณ์ เครื่องมือเพื่อป้องกันการติดต่อโรค ได้แก่ จุดสำหรับล้างมือ และแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือกระจายในหลายจุดโครงการก่อสร้าง การทำความสะอาดด้วยนำยาฆ่าเชื้อที่โครงการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ การเข้าตรวจสอบมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค การจัดหาวัคซีนให้แก่แรงงานผู้รับเหมาของบริษัท เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แม่บ้าน ประจำโครงการก่อสร้างของบริษัท
แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan (BCP)
บริษัท จัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในสภาวะวิกฤติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ทั้งที่เกิดจากภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ หรือการมุ่งร้ายต่อกลุ่มบริษัท โดยไม่ให้สภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มบริษัท ต้องหยุดการดำเนินงาน หรือไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัทใช้รับรองสถานการณ์ กรณีเกิดสภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่สำนักงานของบริษัท หรือภายในกลุ่มบริษัท ด้วยเหตุการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อไปนี้
ผลกระทบ | |||||
---|---|---|---|---|---|
เหตุการณ์สภาวะวิกฤต | ด้านอาคาร/สถานที่ปฏิบัติงานหลัก | ด้านวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ | ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ | ด้านบุคลากรหลัก | ด้านคู่ค้า/ผู้ ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย |
อัคคีภัย (ไฟไหม้) | |||||
อุทกภัย (น้ำท่วม) | |||||
การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ (โรคระบาด) |
ความผูกพันของพนักงาน
กลุ่มบริษัทกำหนดแนวทางในการสร้างความผูกพันและรักษาพนักงาน เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกับบริษัท โดยในปี 2565 บริษัทได้จัดทำแบบสำรวจความผูกพันต่อองค์กร ประจำปี 2565 (Employee Engagement Survey) เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการได้รับทราบถึงความคิดเห็นและความต้องการของพนักงานที่มีต่อบริษัท ผลสำรวจความผูกพันต่อองค์กร ประจำปี 2565 (Employee Engagement Survey) คิดเป็น 78.30% ซึ่งจัดอยู่ในระดับสูง
อัตราการลาออกของพนักงานโดยสมัครใจ (Turnover rate) ในปี 2565 ดังนี้
พนักงานลาออก | จำนวน (คน) | ร้อยละ |
---|---|---|
จำนวนพนักงานลาออก | 91 | 21.93 |
แบ่งตามระดับ | ||
ระดับผู้บริหารระดับสูง | 0 | 0.00 |
ระดับผู้บริหารระดับกลาง | 6 | 6.59 |
ระดับผู้จัดการขึ้นไป | 33 | 36.26 |
ระดับปฏิบัติการ | 30 | 32.97 |
พนักงานสัญญาจ้าง | 22 | 24.18 |
แบ่งตามช่วงอายุงาน | ||
อายุงาน 5 ปีขึ้นไป | 2 | 2.20 |
อายุงาน 3-5 ปี | 10 | 10.99 |
อายุงาน 1-3 ปี | 16 | 17.58 |
กลุ่มบริษัทมุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับลูกค้าอย่างมากที่สุด โดยเชื่อว่าลูกค้าคือหนึ่งในหัวใจที่สำคัญของการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ดี และสามารถเติมเต็มทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้จริง ภายใต้สโลแกน “YOUR BEST CHOICE - ส่งมองที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ในด้านต่างๆ ดังนี้
การพัฒนาสินค้าและบริการ
กลุ่มบริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบัน ในการพัฒนาโครงการคุณภาพและส่งต่อความสุขต่อลูกค้า ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness”
การออกแบบและสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของคนทุกวัย
กลุ่มบริษัทจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบและการสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ เพื่อให้ตรงใจผู้อยู่อาศัยและสร้างความสุขได้อย่างแท้จริง โดยได้ยึดหลัก 5 แกนในการออกแบบและสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของคนทุกวัยขึ้น ได้แก่ ในหลากหลายสไตล์เพื่อความไม่จำเจ ห้อง Library กว้างขวางสำหรับการเรียนที่บ้าน ห้อง Meeting Room รองรับการประชุมออนไลน์ ห้อง Living Lounge สำหรับการทำงานแบบ Work From Home

นวัตกรรมทางธุรกิจ
“WISECOLOGY” แนวคิดเพื่อตอบโจทย์การเปิดอยู่ที่ดี และสร้างความยั่งยืนให้กับสภาพแวดล้อม ด้วยการสร้างเมืองแห่งสุขภาวะที่ดี พร้อมกับสร้างสภาพเมืองสุขภาวะที่ดี พร้อมกับสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่และปลอดภัย ด้วยการนำเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และสิ่งแวดล้อม มาต่อยอดเพื่อยกระดับคุณภาพของการอยู่อาศัยภายใต้ 3 แนวคิดหลัก ดังนี้

Smart Living “การคิดเพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งความสะดวกสบายและปลอดภัย”
ทั้งในด้านการเดินทางที่สะดวกสบาย การเตรียมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อความปลอดภัยในทุกความเป็นอยู่ ดังนี้
- Convenience Lifestyle สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ
- Definition of the Relaxing การออกแบบที่อยู่อาศัยพร้อมศูนย์การค้าที่เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มาพร้อมด้วยบรรยากาศสีเขียวชะอุ่มร่มรื่นเหมาะกับการใช้ชีวิตแบบครบวงจรในที่นี่ที่เดียว
- Transportations Center เชื่อมต่อทุกการเดินทางสู่อนาคตที่สะดวกสบาย
Environment Friendly “การคิดเพื่อรักษ์โลก”
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ เพื่อให้เราได้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการนำหลักการ Growgreen มาปรับใช้ภายในโครงการเพื่อสร้าง Community ที่เกื้อหนุนให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในแง่ของการพักอาศัย สิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้ 5 แกนหลัก
- Energy Efficiency: การออกแบบการใช้พลังงานในอาคารอย่างคุ้มค่า
- Waste Management: เพื่อให้การจัดการขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- Green Space: การออกแบบและสร้างพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- Clean Air: แอสเซทไวส์ใส่ใจในเรื่องการมีอากาศที่สะอาด โดยเน้นการเลือกวัสดุก่อสร้างที่ลดปริมาณการสร้างมลพิษในอากาศ
- Water Saving: การคำนึงเรื่องใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

Sustainable Life “การคิดเพื่อคนทุกรุ่น ทั้งในวันนี้และอนาคต”
ออกแบบพื้นที่เพื่อให้ตอบโจทย์คนทุกรุ่น ด้วยยูนิตที่เป็น All Gens Series ภายใต้แนวคิด "Multi Dimension for Multi Lifestyle" ทั้ง Extensive Space การออกแบบพื้นที่ของห้องพักให้กว้างขวาง มาพร้อม Adaptive Design ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เพื่อสอดรับกับ Flexible Lifestyle ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนทุกวัย และยังยกระดับการมีสุขภาพที่ดีด้วย Ensured Safety and Health บริการดูแลสุขภาพ Health Service ด้วย AssetWise Health Station ที่ตรวจสุขภาพของคุณได้ทุกวัน รวมทั้งมีพันธมิตรที่เข้ามาร่วมดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย อย่าง Application for Health เชื่อมต่อกับแพทย์ออนไลน์ มั่นใจในการดูแลสุขภาพตลอด 24 ชม. (Telemedicine) และ DoCare by SCG เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยและป้องกันสุขภาพของผู้อยู่อาศัย และรับเทรนด์ Healthy Lifestyle ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Strengthen Sustainability
AssetWise Club - Community สำหรับลูกค้าของบริษัท
กลุ่มบริษัทได้จัดให้มีกลุ่มเครือข่ายสำหรับดูแลลูกค้า ชื่อว่า “AssetWise Club” สำหรับแบ่งปันกิจกรรม ข้อมูลข่าวสาร สิทธิพิเศษ และผลประโยชน์ต่างๆ สำหรับลูกค้า โดยในปี 2565 มีการจัดกิจกรรมต่างๆ และมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ดังนี้
ช่องทางแสดงความคิดเห็น แจ้งข้อร้องเรียน หรือแนะนำ ของลูกค้า
กลุ่มบริษัทเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถแสดงความคิดเห็น แจ้งข้อร้องเรียน หรือแนะนำแก่บริษัท โดยบริษัทจะนำข้อคิดเห็น หรือข้อแนะนำที่ได้รับมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด
- Call Center: 02-168-0000
- www.assetwise.co.th
- Facebook: AssetWise
- E-Mail: contactcenter@assetwise.co.th
ในปี 2565 บริษัทได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้าผ่านช่องทางการร้องเรียน จำนวน 655 กรณี โดยมีรายละเอียดเรื่องที่สำคัญดังนี้

- ร้องเรียนเกี่ยวกับพนักงานทั้งหมด 317 กรณี แบ่งเป็น พนักงานบริษัทแอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด 315 กรณี และบริษัทย่อย ทั้งหมด 2 กรณี
- ร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการทั้งหมด 338 กรณี แบ่งเป็น เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการทั้งตัวห้องและบริเวณโดยรอบโครงการ ได้แก่ การแจ้งซ้อม การแจ้งซ้อมล่าช้า ปัญหาการจอดรถ และชุมชนรอบข้างโครงการ ทั้งหมด 289 กรณี และร้องเรียนเกี่ยวกับป้ายโฆษณา 38 กรณี
- ร้องเรียนเกี่ยวกับศูนย์การค้า (Mingle Mall /Mingle Market) ทั้งหมด 11 กรณี แบ่งเป็น เรื่องเสียงรบรบกวนจากการก่อสร้าง และการเปิดเพลง 2 กรณี และร้องเรียนเกี่ยวกับร้านค้าภายใน Mingle Mall 9 กรณี
หลังจากได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้า บริษัท ได้กำหนดวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ดังนี้
- หน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าและประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องติดต่อลูกค้ากลับภายใน 1 ชั่วโมง
- ติดตามข้อสรุปการแก้ไขข้อร้องเรียนจากผู้เกี่ยวข้องหลังจากได้รับข้อร้องเรียน เพื่อบันทึกผลการดำเนินการ พร้อมติดตามผลการแก้ไขข้อร้องเรียนตามแผนการแก้ไขนั้น ๆ
- เมื่อดำเนินการแก้ไขข้อร้องเรียนแล้ว ฝ่ายที่ดำเนินการแจ้งหลักฐานการแก้ไขให้กับหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน เพื่อปิดเรื่องร้องเรียนตามระยะเวลาที่ยืนยันกับผู้ร้องเรียน
- นำข้อร้องเรียนมาจัดทำเป็น Q&A เพื่อสื่อสารในกรณีเกิดเหตุการณ์ครั้งต่อไป

การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า
ในปี 2565 บริษัทได้จัดให้มีการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าต่อภาพรวมของโครงการในกลุ่มบริษัท โดยแบ่งออกแบบความพึงพอใจของลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการของกลุ่มบริษัท และความพึงพอใจของลูกค้าผู้อยู่อาศัยในโครงการของกลุ่มบริษัทโดยผลคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าต่อเรื่องต่างๆ ดังนี้
ความพึงพอใจ
ก่อนการพัฒนาโครงการของบริษัท ในทุกโครงการ กลุ่มบริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่ข้างเคียงโครงการ โดยถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของโครงการ หรือ Environmental Impact Assessment Report (EIA) เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ผลกระทบที่ชุมชนข้างเคียงจะได้รับการการก่อสร้างจากการสำรวจความคิดเห็นและความต้องการของชุมชน การกำหนดแผนในการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากชุมชน การกำหนดแนวทางในการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชุมชน รวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนข้างเคียง
ในปี 2565 กลุ่มบริษัทไม่พบข้อร้องเรียนจากชุมชนในประเด็นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากจากการก่อสร้างโครงการ

การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคมในปี 2565 กลุ่มบริษัทได้จัดโครงการหรือกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนและสังคม ดังนี้